Lecture5: Information Technology for Professional Accountants (2)
Chapter17: Information Technology Economics
17.1 Technology and Economic Trends and the Productivity Paradox
· Productivity Paradox เป็นความขัดแย้งระหว่าง computer power ที่เพิ่มขึ้น แต่ productivity ที่ได้กลับน้อยกว่า หรือไม่มากเท่าที่คาดหวังไว้ ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้
v การไม่เห็น Productivity Gains หรือ Benefit ที่ชัดเจนในช่วงแรกเริ่มใช้ระบบ
v การลงทุนหรือเพิ่มงบในแผนก IT ค่อนข้างสูง ทำให้ต้องแบ่งงบจากแผนกอื่น เช่น ฝ่ายการตลาด มาสมทบ
v การลงทุนใน IT มีมูลค่าค่อนข้างสูง
v การติดตามประสิทธิผลในการติดตั้งระบบใหม่ จะมี Time Lag คือต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรม และต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะคุ้มทุน
v การใช้ระบบ IT ในปัจจุบันมีปัจจัยต่างๆมากระทบ เช่น ข้อบังคับทางกฎหมาย จึงอาจทำให้ระบบมีประสิทธิภาพไม่เป็นไปตามคาด
· ผลกระทบของระบบ IT มีอยู่ด้วยกัน 2 ระดับ คือ
v 1.Direct Impact เช่น การลดค่าใช้จ่ายกระดาษ ค่าโทรศัพท์
v 2.Second-Order Impact เช่น การได้ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น
17.2 Evaluating IT Investments: Needs, Benefits, Issues, and Traditional Methods
· การประเมินและตัดสินใจลงทุนใน IT ให้เหมาะสม มีขั้นตอนดังนี้
1. พิจารณาปัจจัยพื้นฐาน และกำหนด Return on Investment (ROI) ที่ต้องการ
2. ทำการค้นคว้าข้อมูลและวิจัยเพิ่มเติม โดยใช้เกณฑ์ที่เป็น Objective
3. ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับต้นทุน และผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
4. ระบุเครื่องมือที่ใช้ในการคำนวณ รวมไปถึงการวิเคราะห์ความเสี่ยง
5. ระบุให้ได้ว่าการลงทุนในครั้งนี้สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของบริษัทได้อย่างไร
6. เปรียบเทียบ Cost และ Benefit
7. ตัดสินใจลงทุน
· บางโครงการอาจไม่จำเป็นต้องมีการประเมิน เนื่องจาก
1. เป็น project ที่ใช้เงินลงทุนน้อยมาก
2. project นั้นจัดว่าเป็น infrastructure คือมีความสำคัญจำเป็นในการรองรับการดำเนินงานองค์กร
3. project นั้นเป็นงานที่ผู้บริหารระดับสูงสั่งมา
4. ข้อมูลในการตัดสินไม่เพียงพอ แต่ก็ต้องใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพช่วยในการตัดสินใจด้วย
· Intangible benefit เป็นสิ่งที่วัดได้ยาก เช่น สินค้าออกสู่ตลาดเร็วขึ้น, ความพึงพอใจของลูกค้า เป็นต้น และมี Time Lag และการประเมิน intangible benefit สูงไป ก็อาจทำให้สูญเสียโอกาสในการนำเงินไปลงทุนในส่วนอื่น หรือประเมินต่ำไปก็อาจจะทำให้พลาดโอกาสลงทุนใน project ที่ดีได้ ดังนั้นจึงมีวิธีในการระบุและประมาณ intangible benefit ดังนี้
v Think broadly and softly มองหา benefit อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับองค์กร เช่น ลูกค้ามีความซื่อสัตย์กับองค์กรมากขึ้น
v Pay your freight first มองผลประโยชน์ระยะสั้นๆก่อน
v Follow the unanticipated มองBenefit ตามความคิดเห็นของลูกค้า ดูว่าลูกค้าให้ Value กับประเด็นใดเป็นสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้เราพัฒนาจุดแข็งเชิงกลยุทธ์ได้ตรงจุด
· Costing IT Investment
v Fixed Cost
v Transaction Cost
Ø Search
Ø Information
Ø Negotiation
Ø Decision
Ø Monitoring
· การประเมินการลงทุนด้วยการวิเคราะห์ Cost-Benefit มีอยู่ 5 วิธีด้วยกัน
v Net Profit เป็นวิธีพิจารณาว่าโครงการใดให้กำไรจำนวนสูงที่สุด แต่มิได้คำนึงถึง Time Value of Money และเงินลงทุนเริ่มต้น
v Payback Period หรือระยะเวลาคืนทุน เป็นวิธีที่มองว่าโครงการใดคุ้มทุนเร็วที่สุด ซึ่งข้อเสียของวิธีนี้ก็คือ ไม่ได้มองว่ากำไรที่เกิดขึ้นในแต่ละปี สนใจแต่เวลาเท่านั้น
v Return on Investment (ROI) เป็นการเปรียบเทียบผลตอบแทนที่ได้เฉลี่ยในแต่ละปี ส่วนด้วยเงินลงทุนเริ่มแรก แต่ไม่สนใจ Time Value of Money
v Net Present Value (NPV) วิธีนี้เป็นการคำนวณผลตอบแทนที่จะได้รับทั้งหมด โดยที่มีการคิดลดให้เป็น Present Value ตาม Discount Rate ที่กำหนด การใช้วิธีนี้อาจจะเป็นปัญหาในการเปรียบเทียบโครงการที่มีอายุต่างกัน หรือขนาดการลงทุนที่ต่างกัน แต่อาจมีความยากในการเลือก Discount Rate ที่เหมาะสม
v Internal Rate of Return (IRR) เป็นการระบุอัตราผลตอบแทนที่ได้รับจากโครงการ ซึ่งหากบริษัทสามารถหาเงินทุนที่มีต้นทุนทางการเงินน้อยกว่าค่า IRR ก็น่าที่จะมีโอกาสในการลงทุนโครงการนั้นๆ
17.3 Advanced Methods for Justifying IT Investment and Using IT Metrics
· Advanced Methods for justifying IT investment and using IT metrics
v Total Cost of Ownership (TCO) เป็นการคำนวณต้นทุนที่จะเกิดขึ้น เช่น Acquisition Cost, Operations Cost, Control Cost ที่เกิดขึ้นในแต่ละทางเลือกการลงทุน วิธีนี้อาจทำควบคู่ไปกับ Total Benefits of Ownership (TBO) เพื่อหาผลตอบแทนรวมที่จะได้รับ (Payoff = TBO - TCO)
v Benchmarks เป็นการเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม หรือ บริษัทที่มีการดำเนินงานดีที่สุดในอุตสาหกรรม
v Balanced Scorecard เป็นการประเมินผลงานในหลายๆ ด้าน ที่นอกเหนือจากด้านการเงินเพียงด้านเดียวมีทั้งสิ้น 4 มุมมอง ดังนี้
1. Financial perspectives เพิ่มกำไร รายได้ ลดต้นทุน
2. Customer perspectives การรักษาฐานลูกค้าเดิม การเพิ่มลูกค้าใหม่
3. Internal Process perspectives ประเมิน Productivity ทักษะพนักงาน การลดระยะเวลาในการดำเนินงาน
4. Learning and Growth perspectives วัดทัศนคติและทักษะของพนักงาน อัตราเข้าออกงานของพนักงาน
17.4 Examples of IT Project Justification
· E-procurement Metrics วัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลจาก อัตราการตอบสนอง หรืออัตราการส่งของตรงเวลา
· CRM อาจจะดูจากยอดขายว่าเพิ่มขึ้น ดู ROMI ดูอัตราการแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นหรือไม่ และอัตราลูกค้าที่เลิกใช้บริการ
· E-Training อาจวัดความสามารถของพนักงานที่เพิ่มขึ้นได้จาก Pre-test, Post-test
17.5 Economic Aspects of IT and Web-Based Systems
· E-commerce ควรดูว่าการลงทุนนั้นสนับสนุน strategic หรือไม่ และไม่ควรลงทุนแบบในยุค e-commerce boom
· Where costs of IT investment go? ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปในการใช้และลงทุนใน IT ควรคิดค่าใช้ภายในองค์กรอย่างไร
v Overhead Cost คิดเป็นค่าใช้จ่ายรวมของทั้งองค์กร
v Chargeback อาจคิดตามงาน ตามจำนวนธุรกรรม หรือระยะเวลาการใช้ระบบของแต่ละฝ่าย
· Failures & Runaway projects
v ส่วนมากมักเกิดขึ้นจากการที่ไม่ได้ทำ cost-benefit ที่ถูกต้อง
v ไม่ได้รับความสำคัญ
v Economic Issues
17.6 Managerial Issues
· ปัจจุบัน IT เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญไม่ได้เป็นเพียงแค่ฝ่ายสนับสนุนเหมือนในอดีต
· การเปลี่ยนทาง IT ที่รวดเร็ว
· Benefit ที่ได้ ไม่ Automatic ดังนั้นจึงต้องมีการวัดผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ
· ต้องระบุ ประเมิน ความเสี่ยงในทุกระดับ พร้อมทั้งประเมินความน่าจะเป็นด้วย
· ใครเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจลงทุนใน IT
จุฑาทิพ ตระการบุญชัย
5202112776
จุฑาทิพ ตระการบุญชัย
5202112776
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น