วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Lecture 11 Strategic Information System Planning

Business Intelligence (cont)
·        Web Mining
เป็นความสามารถในการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้วิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของลูกค้าแต่ละคนเพื่อที่จะนำเสนอเนื้อหา link สินค้าหรือบริการ ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนได้ ซึ่ง web mining นั้นสามารถทำได้ใน 3 รูปแบบ
1.       Web content mining ใน webมี content ใด เนื้อหาใด ที่ผู้ใช้ให้ความสนใจบ้าง
2.       Web structure mining ดูว่าในหน้า website นั้นมีการดีไซน์อย่างไร มี link อะไรที่ลูกค้าสนใจอบ้าง
3.       Web usage mining การเก็บสถิติการเก็บชมเว็บไซต์ทั้งจำนวนครั้งและจำนวนเว็บ หรือข้อมูล clickstream ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ทำให้ทราบพฤติกรรมของผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้นและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างตรงจุด
Strategic Information System Planning (การวางแผนการใช้ระบบ IT)
เมื่อองค์กรได้มีการเติบโตหรือพัฒนาขึ้น ระบบสารสนเทศนั้นก็ต้องมีการพัฒนาหรือปรับปรุงตามไปเช่นกัน ซึ่งในการพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กรนั้นจะต้องมีการวางแผนการใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุ้มค่า โดยในการวางแผนนั้นต้องมีการประเมินว่าองค์กรนั้นต้องการระบบสารสนเทศใดบ้าง และจะทำอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศที่ต้องการ รวมทั้งระยะเวลาที่เหมาะสมในการติดตั้งระบบด้วย
·        IS/IT Planning
เป็นการวางแผนระบบสารสนเทศเบื้องต้น โดยการกำหนด Infrastructure และ Applicationต่างที่เหมาะสมกับการใช้งานในทุกระดับขององค์กร  โดยคำนึงถึงความสามารถของระบบสารสนเทศที่จะทำให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ได้เป็นหลัก
·        Four stage model of IS/IT Planning
1.       Strategic Planning การกำหนดกลยุทธ์ โดยการพิจารณาระหว่างเป้าหมายขององค์กรและระบบสารสนเทศที่จะทำให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ได้
Ø Set IS mission โดยดูมุมมองการใช้ระบบสารสนเทศ ว่าองค์กรนั้นใช้ ITเป็นระบบหลักหรือเป็นเพียงระบบสนับสนุนกลยุทธ์อีกที
Ø  Access environment ประเมินสิ่งที่องค์กรมีอยู่ในปัจจุบันว่ามีอะไรบ้าง มีปัญหาอะไรบ้าง เช่น ประเมินความสามารถของระบบสารสนเทศเดิม, โอกาสทางธุรกิจใหม่, สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง, วงจรการใช้งานจองระบบสารสนเทศที่มีอยู่ รวมทั้ง skill ของผู้ใช้งานระบบ เป็นต้น
Ø Access organizational objectives strategies โดยการทบทวนกลยุทธ์ขององค์กรว่าเหมาะสมกับสภาพองค์กรในปัจจุบันหรือไม่ รวมทั้งประเมินว่ากลยุทธ์องค์กรใดที่ต้องอาศัยระบบสารสนเทศในการสนับสนุนและ ปัจจุบันกลยุทธ์ดังกล่าวมีระบบสารสนเทศตอบสนองแล้วหรือยัง
Ø Set IS policies, objectives, strategies ต้องระบุความสำคัญของระบบสารสนเทศที่มีต่อองค์กร และIS อยู่ตำแหน่งใดขององค์กร เป็นระบบหลักหรือว่าระบบสนับสนุน
2.       Organizational Information Requirements analysis กำหนดระบบสารสนเทศที่ใช้ในการดำเนินกลยุทธ์
Ø Access organization’s information requirements ประเมินความต้องการใช้ระบบสารสนเทศในปัจจุบันและในอนาคตขององค์กร เพื่อเป็นกรอบในการพิจารณาระบบที่เหมาะสมกับองค์กรที่สุด
Ø Assemble master development plan นำข้อมูลจากข้อ Access organization’s information requirements มากำหนดระบบสารสนเทศที่ต้องการ และสิ่งที่ระบบสนับสนุน รวมทั้งจัดลำดับความสำคัญระบบสารสนเทศ โดยต้องมีการคำนึงถึงความพร้อมของเงินทุน บุคลากรและเทคโนโลยีด้วย
3.       Resource Allocation Planning
Ø Develop resource requirements plan ประเมินทรัพยากรสำคัญที่ต้องใช้กับระบบสารสนเทศที่เราต้องการ ทั้ง Infrastructure Application และสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมเพื่อรองรับกับระบบใหม่ เช่น ห้องหรือโต๊ะที่ใช้ในการติดตั้ง Server การติดตั้งสาย Network และกำลังไฟที่มากพอ รวมทั้งคำนึงถึงลักษณะผู้ใช้งานด้วย โดยทรัพยากรที่ต้องการใช้เหล่านี้จะต้องมีการตีราคาเป็นตัวเงินทั้งหมดเพื่อหา cost per application
4.    Project Planning ประเมินความคุ้มค่า
Ø Evaluate project and develop project plans ประเมินความคุ้มค่าของโครงการ โดยพิจาณาถึงต้นทุนและความจำเป็นระบบสารสนเทศขององค์กรว่าเหมาะสมคุ้มค่าหรือไม่
·        ระเบียบวิธีที่ใช้เพื่อช่วยในการวางแผน IT  
Ø  The business system planning (BSP) model
Ø  Stages of IT Growth Model
Ø  Critical success factors (CSFs)
Ø  Scenario planning

·        The Business Systems Planning Model (BSP)
การวิเคราะห์การใช้ข้อมูลทั้งหมดขององค์กร ผ่านการวิเคราะห์ Business Processes (Across Functional) ว่าแต่ละกระบวนการนั้นมีการเกิดหรือใช้ Data Classes อะไรบ้าง ซึ่งช่วยสะท้อนระบบการทำงานขององค์กรรวมทั้งการไหลของข้อมูลภายในขององค์กรได้ชัดเจนขึ้น โดย BSP นั้นมีขั้นตอนดังนี้
1.       Gaining Commitment ของบุคลากรในองค์กร
2.       Defining Business Process
3.       Defining Data Classes ข้อมูลที่ต้องการใช้ในองค์กร
4.       Analyzing Current Systems Support ประเมินสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน
5.       Determining the executive expectation สอบถามสิ่งที่คาดหวังในอนาคตจากผู้บริหารระดับสูง
6.       Defining Findings and Conclusions สิ่งที่ต้องทำเพิ่ม
7.       Defining Info Architecture
8.       Determining Architecture Priorities จัดลำดับความสำคัญของระบบ
9.       Developing recommendations and Action Plan

Ø ข้อดี เข้าใจระบบโดยรวมมากขึ้น เห็นภาพการไหลของข้อมูลที่ชัดเจน เหมาะกับองค์กรที่ไม่เคยมีการวางแผนมาก่อน เช่นองค์กรที่เพิ่มเริ่มกิจการหรือองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบครั้งใหญ่
Ø ข้อเสีย ใช้เวลาและข้อมูลจำนวนมาก และให้ในความสนใจกับระบบปัจจุบันมากกว่าระบบในอนาคต

·        Critical Success Factors (CSF)
เป็นกำหนดปัจจัยหรือประเด็นที่สำคัญด้านความอยู่รอดและประสบความสำเร็จขององค์กร ซึ่ง CSF ในแต่ละอุตสาหกรรมนั้นก็แตกต่างกันไป โดยเน้นไปที่การสัมภาษณ์ผู้บริหารแล้วสังเคราะห์ออกมาเป็น database ขององค์กร โดย CSF นั้นมีขั้นตอนดังนี้
1.       สัมภาษณ์หรือสอบถามความต้องการของผู้บริหารระดับสูง
2.       Aggregate and Analyze Individual CSFs รวบรวมและวิเคราะห์ความเห็นที่แตกต่างของผู้บริหาร
3.       Develop Agreement on Company CSFs ประมวลผลข้อมูลที่ได้
4.       Define Company CSFs หาข้อสรุปและระบุ CSF ขององค์กร
§  Define DSS and Database
§  Develop IS Priorities ระบุความสำคัญของระบบสารสนเทศที่ต้องการ
Ø ข้อดี  ใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์ผลไม่มากนัก โดยได้คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมด้วย และเน้นไปที่อนาคตขององค์กรเป็นหลัก
Ø ข้อเสีย  ในการเก็บข้อมูลต้องใช้บุคลากรที่มีความสามารถในการวิเคราะห์บทสัมภาษณ์ และเป็นการยากในการแยกความเห็นของผู้บริหารในส่วนความคิดเห็นส่วนตัวกับความคิดเห็นเนื่องจากตำแหน่งงานออกจากกัน
จุฑาทิพ ตระการบุญชัย
5202112776

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น